Sunday, January 4, 2009

คิดถึงบ้าน


ศิลปิน จรัล มโนเพ็ชร

มองดูดวงดาวก็คงเป็นดาวดวงเดียวกัน
มองดูดวงจันทร์ก็เหมือนกับจันทร์ที่บ้านเรา
ยามที่ฉันเหงา คิดถึงบ้าน
มองดูท้องฟ้าก็ยังเป็นฟ้าพื้้นเดียวกัน
มองดูดวงตะวันก็ยังส่องแสงไปบ้านฉัน
ยามฟ้ามืดครึ้ม คิดถึงบ้าน

อยู่ในเมืองกรุงก็คงวุ่นวายและวกวน
มีแต่ผู้คนเหมือนกับคนที่ไม่รู้จักกัน
ชีวิตผกผัน คิดถึงบ้าน
มองไปทางใดก็มีแต่ตึกสูงสวยงาม
แต่ใจคนไม่งามเหมือนกับคนที่บ้านเรา
ยามนี้ฉันเหงา คิดถึงบ้าน

อยู่ในเมืองกรุงก็วุ่นวายและวกวน
มีแต่ผู้คนก็เหมือนกับคนไม่รู้จักกัน
ชีวิตผกผัน คิดถึงบ้าน
มองไปทางใดก็มีแต่ตึกสูงสวยงาม
แต่ใจคนไม่งามเหมือนกับคนที่บ้านเรา
ยามที่ฉันเหงา คิดถึงบ้าน
คิดถึงบ้านเป็นบทเพลงที่กวีนั้นพูดถึงความวุ่นวายที่ผู้คนเพชิญอยู่ด้วยกันในเมือง ถึงแม้ว่าผู้คนในเมืองนั้นอาจจะมีมากมายแต่ทว่า ไม่มีใครรู้จักกันหรือว่าเป็นมิตรกันโดยใดๆ ทำให้ผู้คนที่ได้เข้าเมืองจากภายนแกนั้นรู้สึกวกวนและหลงทาง เพราะทุกคนต่างใช้ชีวิตของตนเองโดยทั้งนั้น ไม่สนใจใยดีผู้อื่นเลย

ผู้แต่งได้ใช้การซ้ำในวรรคแรก

มองดูดวงดาวก็คงเป็นดาวดวงเดียวกัน
มองดูดวงจันทร์ก็เหมือนกับจันทร์ที่บ้านเรา
ยามที่ฉันเหงา คิดถึงบ้าน
มองดูท้องฟ้าก็ยังเป็นฟ้าพื้้นเดียวกัน
มองดูดวงตะวันก็ยังส่องแสงไปบ้านฉัน
ยามฟ้ามืดครึ้ม คิดถึงบ้าน
เพราะโดยการใช้คำว่า มอง และ ยาม เพราะว่า ผู้พูดนั้นคิดถึงบ้าน สิ่งที่ทำได้เมื่ออยู่ในเมืองยามคิดถึงบ้านนนั้นก็เพียงแค่มองดูดวงจันทร์ เพราะว่ายามที่คิดถึงบ้านตอนที่อยู่ในเมืองใหญ่นั้นก็มีเพียงแค่พระจันทร์ที่เป็นสิ่งเดิมที่เห็นเวลาอยู่บ้าน

ผู้อ่านนั้นจะได้รู้สึกถึงความว้าเหว่ของกวีที่คิดถึงบ้านที่ต้องอยู่ในเมืองใหญ่เพื่องานที่ดีกว่าซึ่งส่งต่อไปถึงเงินเดือนที่ดีกว่าแต่ในใจก็เศร้าเพราะว่าคิดถึงบ้านที่ทุกคนรู้จักกันแล้วอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น

No comments:

เพลง